Extraction คนระห่ำภารกิจเดือด
Extraction เป็นอีกหนึ่งหนังทาง Netflix ที่น่าจับตามองมาก ๆ เพราะเป็นหนังฟอร์มยักษ์สายแอ็กชันที่ได้พระเอกดังอย่างเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ หรือ คริส เฮมเวิร์ธ มาเป็นนักแสดงนำ ส่วนคอหนังบ้านเรายังมีจุดให้สนใจเพิ่มตรงที่มีหลายฉากเลยที่มาถ่ายทำในบ้านเราทั้งจังหวัดนครปฐมและราชบุรี และงานนี้เป็นการกำกับหนังยาวครั้งแรกของ แซม ฮาร์เกรฟ ที่เคยมีผลงานสายสตันต์แมนมาอย่างโชกโชน โดยเฉพาะในหนังซูเปอร์ฮีโรของมาร์เวลอย่าง Captain America: Civil War จนมาถึงล่าสุดอย่าง Avengers: Endgame จึงไม่แปลกใจที่สองพี่น้อง โจและแอนโทนี รุสโซ จาก Endgame จึงเต็มใจมาเป็นป๋าดันให้ฮาร์เกรฟในหนังเรื่องนี้ในฐานะโพรดิวเซอร์
แน่นอนว่าประวัติการทำงานด้านแอ็คชั่นมากมายอย่างนี้มากำกับหนังแอ็คชั่นเองทั้งทีก็ต้องเข้าใจมันและทำออกมาได้ดีแน่ ๆ นิวตัน โธมัส ซีเกล (Newton Thomas Sigel ) ผู้กำกับภาพ จากหนัง X-men Apocalypse ,Three Kings และ Drive มาร่วมทีม และทีมเขียนบทพี่น้องรุสโซ่ โจ และ แอนโทนี่ (Joe & Anthony Russo ) ผู้เขียนบท Cation America Cilvil War และ Avenger สองภาคสุดท้าย ผลงานชิ้นโบว์แดงที่โด่งดังของวงการภาพยนตร์ แค่ทีมสร้างหนังก็น่าสนใจแล้ว ยังได้ คริส เฮมส์เวิร์ท (Chris Hemsworth) มาเป็นนักแสดงนำให้กับเรื่องนี้อีก ครั้งนี้เขาเปลี่ยนบทจากเทพเจ้าสายฟ้าอย่าง Thor มาเป็นตัวพ่อแห่งวงการต่อสู้ในเรื่องนี้แทนเลย
เรื่องย่อ
Extraction ว่าด้วยเรื่องราวของไทเลอร์ เรค (คริส เฮมส์เวิร์ธ) อดีตทหารอาสาสมัคร ที่ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้างที่ใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งเขาได้รับภารกิจให้ช่วยชิงตัว โอวี มหาจัน ลูกชายของมาเฟียใหญ่ในแวดวงอาชญากรรมข้ามชาติที่ตัวพ่อยังติดคุกอยู่ แต่ลูกก็โดนลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่โดยหัวหน้ามาเฟียอีกแก๊งหนึ่งที่มีความขัดแย้งกันมายาวนาน ไทเลอร์จึงต้องบุกรังโลกมืดของนักค้าอาวุธเถื่อนและพวกลักลอบค้ายาเสพติดที่เต็มไปด้วยอันตรายทุกฝีก้าว
เมื่อทุกอย่างในเมืองถูกควบคุมโดยมาเฟียขาโหดรายนี้ นอกจากความอันตรายแล้ว การหักหลัง แผนซ้อนแผน และความไว้ใจที่ไม่สามารถหาได้ในภารกิจ พร้อมกับบททดสอบภายในจิตใจของเขากับปมในอดีต ก็ยิ่งทำให้ภารกิจในครั้งนี้เสมือนเป็นจุดเปลี่ยนของเขาและเด็กชายคนนั้นไปตลอดกาล
“ตัวละครนี้มาพร้อมกับจิตใจที่แตกสลาย ร่างที่ไร้จิตวิญญาณ และกลายสภาพเป็นเหมือนปืนที่พร้อมจะบรรจุกระสุนและยิงศัตรูทันทีที่มีคนว่าจ้างเขา ภารกิจที่เขาได้รับแทบจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่มันก็ดูเหมาะสมกับเขาอย่างประหลาดในสถานการณ์ตอนนั้น แต่เมื่อเขาได้ลงมือปฏิบัติภารกิจ มันกลับกลายเป็นเครื่องกระตุ้นให้เขาได้เห็นอะไรบางอย่างในชีวิต ที่ทำให้ต้องเผชิญกับสภาวะของชีวิตอย่างทุกวันนี้”
ในส่วนของดราม่ามีใส่ไว้จางๆ กับปมลูกที่เสียไปของพระเอก ทำให้เขาเหมือนรับจ้างไปหาเรื่องตายมากกว่า แต่ก็ยังเป็นคนดีที่เลือกช่วยเด็กให้รอดแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ซึ่งในเรื่องมีตัวละครเด็กทั้งจากที่พระเอกช่วยและพวกเด็กที่พบเจอและพยายามฆ่าเขา แต่ตัวพระเอกก็แค่สั่งสอนแล้วปล่อยให้รอดไปทั้งหมด ซึ่งก็ดูเป็นคนดีจนรู้สึกแอบขัดแย้งกับแนวเรื่องจริงๆ อย่าง Narcos ที่เด็กก็โดนฝ่ายตัวเอกยิงหัวตายกันได้ง่ายๆ ไม่มีปราณีอะไรกันเพราะถือว่าฝ่ายมาเฟียยาเสพติดครองเมืองตั้งใจใช้เด็กให้มาหลอกฆ่าอยู่แล้ว
ซึ่งตัวเรื่องดราม่ามีปูความสัมพันธ์ของพระเอกกับเด็กที่ช่วยไว้ตลอดทาง ดาราเด็กอินเดียก็มาช่วยส่งปมดราม่าให้ซึ้งได้นิดๆ ก่อนจะบิ้วให้ดราม่าสุดๆ กับฉากจบแนวฮีโร่ที่ต้องเสียสละ แถมยัดเยียดดราม่าเรื่องเด็กเข้ามาปิดท้ายแบบจงใจเกินจริง แต่เรื่องกลับไม่ได้จบลงที่ตรงนั้น มีเรื่องราวไปต่ออีกหน่อยเหมือนตั้งใจเอาใจคนดู หรือไม่ก็เปิดทางเผื่อไว้ภาค 2 เป็นแบบปลายเปิดนิดๆ ให้คนดูไปถกกันว่าสุดท้ายแล้วพระเอกรอดหรือไม่รอดครับ
การถ่ายทำในประเทศไทย
สำหรับการถ่ายทำในประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะไม่มีการบ่งบอกว่าเรื่องราวในภาพยนตร์นั้นเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเมืองธากา ประเทศบังคลาเทศ แต่การใช้สถานที่ในประเทศไทยถ่ายทำหลายฉากในเรื่อง รวมถึงฉากสำคัญของเรื่อง ที่ทีมงานฝ่ายโปรดักชั่นได้เนรมิตให้เป็นเมืองธากา แต่กลิ่นอายความเป็นไทยก็ยังคงซ่อนอยู่จนคุณสามารถเดาได้ไม่อยากว่าฉากไหนคือประเทศไทย ซึ่งเหตุผลที่โปรดักชั่นระดับฮอลลีวูดเลือกเมืองไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ มาจากเหตุผลหลักก็คือตารางเวลาที่ลงตัวนั่นเอง นอกจากนี้ผู้กำกับของเรื่องแซม ฮาร์เกรฟ ก็ได้กล่าวถึงการถ่ายทำว่า
พลังงานและความตื่นตัวของทีมงาน ผู้คน ชาวบ้านในเมืองที่เราไปถ่ายทำ เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก มีบางครั้งที่หลังสิ้นเสียงคัต เสียงปรบมือเกรียวกราวจากคนนับพันก็ดังขึ้นทันที ทำให้ทีมงานทุกคนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังงานจากตรงนั้น และผมก็คิดว่ามีภาพยนตร์ฮอลลีวูดไม่กี่เรื่องที่ใช้สถานที่ในประเทศไทยเป็นที่ถ่ายทำ”
เบื้องหลังการถ่ายทำ
ฮาร์เกรฟ เผยว่า เขาต้องคิดถึงแผนที่จะถ่ายแอ็คชั่นตามบทที่ โจ รุสโซ่ เขียนไว้ ภายใต้งบและเวลาอันจำกัด อีกทั้งยังต้องออกแบบให้มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตนเอง โดยที่ไม่ได้ไปเลียนแบบหนังแอ็คชั่นที่มีฉากไล่ล่าน่าจดจำแบบใน Jason Bourne หรือ James Bond ฉะนั้นไอเดียหลักของการถ่ายฉากแอ็คชั่นก็คือ การถ่ายฉากแอ็คชั่นตามพล็อตของเรื่อง ซึ่งให้ความรู้สึกที่ฉับไวและความแอ็คชั่นของมัน
ผมจึงมองและคิดได้ว่า มันน่าสนุกแน่ ถ้าเราถ่ายทำอย่างใกล้ชิด ให้มันมีความหมายและให้นักแสดงได้มีส่วนร่วม ด้วยการถ่ายทำแบบเทคยาว ด้วยสิ่งที่พวกคุณรู้สึกได้จากชื่อเรื่องอย่างการชิงตัว (extraction) เราจึงให้ผู้ชมได้สัมผัสสิ่งนั้นไปพร้อมกับตัวละครในระยะเวลาจริง ๆ ขณะที่พวกเขาต้องเผชิญความท้าทายแบบที่พวกเขากำลังเผชิญ คุณตอบโต้ในแบบที่พวกเขาทำ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมถึงอยากจะถ่ายทำแบบแฮนด์เฮลด์ให้เหมือนกับถ่ายทำสารคดี พาไปจนถึงจุดที่คุณได้อยู่ตรงนั้น ได้ลิ้มลองบรรยากาศในฉากนั้นตามเวลาจริง”
ทั้งนี้ด้วยระยะเวลา 10 วันของการถ่ายทำฉากลองเทคนี้ ฮาร์เกรฟ ก็ได้มีเวลามากพอที่จะถ่ายฉากเหล่านั้นหลายต่อหลายรอบจนกว่าจะได้ฟุตเทจมากพอที่จะทำให้ลองเทคนี้สมบูรณ์ขึ้นในขั้นตอนการตัดต่อ โดยที่ ฮาร์เกรฟ ยังเผยด้วยว่า มีฉาก ๆ หนึ่งที่ต้องถ่ายทำมากถึง 21 – 22 เทค
สรุป
ภาพรวมของหนัง Extraction อาจไม่ได้เป็นอะไรที่พิเศษไปกว่าหนังแอคชั่นดูสนุกเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรนอกเสียจากฉากบู๊ยิงกันหูดับตับไหม้ แต่การที่มันมาลงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้ถูกเวลา ในช่วงที่ไม่มีหนังบล็อกบัสเตอร์เข้าโรงอย่างยาวนาน ก็ทำให้เราอดรู้สึกคิดถึงรสชาติที่แม้จะธรรมดาแต่ก็สวาปามได้เรื่อย ๆ
แต่ในทางกลับกันนอกจากความพิเศษในเรื่องการเนรมิตฉากแอคชั่นแล้ว เรื่องนี้ก็แทบไม่มีอะไรเด่นเด้งออกมาอีกเลย การเล่าเรื่องก็เป็นเส้นตรงแบบตรงไปตรงมา มีหักมุมนิดหน่อยแต่ไม่ยากเกินเข้าใจ ขณะที่กระบวนการสร้างความสัมพันธ์ให้กับตัวละครก็ไม่ได้ชัดเจนอะไร อาจเพราะมีเวลาที่จำกัด ทำให้พอถึงฉากคุยกันหรือซีนอารมณ์เราไม่ได้รู้สึกว่าอินหรือเข้าถึงเหล่าตัวละครมากนัก ไม่ว่าจะตัวเอกหรือตัวรองก็ตาม ภาพรวมของมันจึงไปได้ไม่ไกลไปกว่าภาพยนตร์แอคชั่นสนุกๆ เรื่องหนึ่งก็เท่านั้น
แต่สำหรับชาวไทยเราอาจจะรู้สึกพิเศษกับหนังเรื่องนี้ขึ้นมาสักหน่อย เพราะการถ่ายทำในไทยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ทำให้เวลาเราเจอกับฉากที่คล้ายว่าจะคุ้นตาทว่าในภูมิทัศน์ที่ต่างออกไปก็ช่วยสร้างความตื่นตาให้ไม่น้อย เช่นฉากเมืองที่ก็ถ่ายในกรุงเทพฯ นี่แหละ แต่พอในเรื่องบอกว่าเป็นอินเดียหรือบังกลาเทศ เราก็ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรเพราะดันทำมาคล้ายจนเรารู้สึกคล้อยตามไปด้วยจริงๆ ก็คงต้องเอ่ยปากชมทีมโปรดักชั่นครับ ไม่ใช่งานลวกๆ เลย
นักแสดงนำ
- ไทเลอร์ เรค รับบทโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ
- โอวี่ มหาจัน รับบทโดย รูดห์รัคช์ ชัยสวาล
- ซาจู รับบทโดย รันดีพ ฮูดา
- โคเอน รับบทโดย เวย์น แบลร์
- แกสเปอร์ รับบทโดย เดวิด ฮาร์เบอร์
- นิค ข่าน รับบทโดย โกลชิฟเทห์ ฟาราฮานี
- โอวี่ มหาจัน ซีเนียร์ รับบทโดย พานคัจ ทริพาติ
ติดตามหนังดัง : Mulan มู่หลาน 2020
บทความเพิ่มเติมการเล่นเกม : ชี้ทางรวยกับเกมสล็อตออนไลน์บนมือถือ