UP ปู่ซ่าบ้าพลัง
UP ปู่ซ่าบ้าพลัง เรื่องราวความรักของปู่ คาร์ล ซึ่งเป็นเรื่องราวของชายชราคนหนึ่งที่ได้พบรักกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งหลงรักในการเดินทาง และผจญภัยเหมือนกัน ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกัน สามีของเขาสัญญากับภรรยาของเขาว่าสักวันจะพาไปเที่ยวที่อเมริกาใต้ ความฝันของทั้งคู่คือการมีลูกด้วยกันและไปเที่ยวอเมริกาใต้ แต่แล้วความฝันของเขาก็พังทลาย เพราะเขาทั้งคู่ไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้ และวันหนึ่งภรรยาของเขาได้เสียชีวิตลง เพราะภรรยาของเขาแก่กว่า เขารู้สึกเสียใจมาก ที่ไม่สามารถทำให้ความฝันของภรรยาเขาเป็นจริงได้ และยึดติดกับความทรงจำที่เคยอยู่กับภรรยาของเขารวมถึงบ้านหลังที่เขาอยู่
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ดิสนีย์พิกซาร์ ได้ส่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นการผจญภัยระหว่างคุณปู่สุดขรึมและเด็กชายลูกเสือสุดร่าเริง คนสองวัยที่ต่างกันมากๆแต่ต้องออกเดินทางร่วมกัน โดยใช้ชื่อเรื่องว่า UP โดยหน้าหนังนั้นใครจะไปคิดว่าการ์ตูนเด็กผจญภัยจะทำให้คนดูเสียน้ำตาได้ตั้งแต่ไม่ถึง 10 นาทีแรกของเรื่อง รวมถึงเป็นการเล่าในรูปแบบที่แทบจะไม่ได้ใช้ประโยคสนทนา ปล่อยให้ภาพและอารมณ์ของเพลงเป็นตัวเล่าเรื่อง

เรื่องย่อ
เมื่อคุณปู่วัยขาสั่นอายุใกล้ 80 คาร์ล เฟรดริกเซน ผู้ที่รักภรรยาที่จากไปสุดหัวใจ เขาทำทุกทางที่จะให้ความฝันของภรรยาที่จากไปเป็นจริง แต่แล้วก็มีเหตุให้ต้องใช้เงิน ที่เก็บหอมรอมริบมากับภรรยาใช้จ่ายไปทีละนิด การเดินทางเพื่อภรรยา แต่แล้วเมื่อวันเวลาผ่านไป ภรรยาของปู่คาร์ลก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง ก่อนที่ความฝันของเขาจึงเกิดขึ้นจริง
จากวัยเด็กจนถึงวัยหนุ่มสาว คาร์ล และ เอลลี่ มีสัญญาใจระหว่างกันและกัน ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูเพื่อนรัก จนกลายเป็นคนรักกัน ทั้งคู่ย้ายไปอยู่ในบ้านร้างที่ได้เจอกันครั้งแรก ดัดแปลงให้กลายเป็นบ้านแสนสุข ใช้เวลาว่างอยู่ด้วยกัน นอนดูก้อนเมฆและจินตนาการเป็นรูปต่างๆ คาร์ลทำงานเก็บเงินด้วยการเป็นพนักงานขายไอศกรีมรถเข็น จุดชวนคนดูน้ำตาซึมจุดแรก เมื่อเอลลี่แท้งลูกและไม่สามารถมีลูกต่อไปได้
หลังจากนั้นในเวลาต่อมา เมื่อวันเวลาผ่านไป การต่อสร้างในตัวเมืองก็เริ่มขยายตัวมากยิ่งขึ้น จนมาถึงบ้านของ คาร์ล ซึ่งบ้านของเขานั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองและเป็นเพื่อนที่ทองที่จะสร้างตึก แต่แล้ว คาร์ลนั้นไม่ยอมขายบ้านที่เขาอยู่เพราะบ้านหลังนี้คือความทรงจำของเขากับเอลรี่ แล้วจะนั้นเรื่องราวทั้งหมดจึงได้เริ่มต้นขึ้น
เจ้านายของบริษัทผู้ที่กำลังสร้างตึกได้มาขอซื้อบ้านต่อจากคาร์ล แต่เขาก็ไม่ยอมขาย จนมีอยู่มาวันนึง คาร์ลได้พบกับ รัสเซล ลูกเสือวัย 9 ขวบนักผจญภัยที่เกิดมาพร้อมกับคำถามในทุกๆเรื่อง ที่มาขอช่วยเหลือคาร์ลที่เป็นคนชรา เพื่อที่ รัสเซล นั้นจะได้เอาเข็มกลัดชิ้นสุดท้ายที่เขายังไม่มีอยู่นั้นมาให้ได้โดย รัสเซล นั้นเป็นลูกเสือที่มากความสามารถและได้รับเข็มกลัดมากมาย เหลือเพียงเข็มกลัดชิ้นสุดท้ายที่เขายังไม่มีได้ นั่นก็คือ เข็มกลัดช่วยเหลือผู้สูงวัย หากเขาสะสมเข็มกลัดทั้งหมดจนครบแล้ว เขาจะได้เจอกับพ่อของเขา แต่แล้วเรื่องราววุ่นๆ ก็เกินขึ้น

รัสเซล
เป็นลูกเสือวัย 9 ขวบที่แสนกระตือรือร้นและตื๊อเก่งจากกองที่ 54 หมู่ที่ 12 รัสเซล ผู้แบกเป้หลังที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์การสำรวจ พร้อมที่จะผจญภัยในป่าใหญ่แล้ว! มีข้อเสียเพียงอย่างเดียวเท่านั้นล่ะตรงที่ว่าเขาไม่เคยออกนอกเมืองไปไหนเลย ความรู้เรื่องป่าทั้งหมดของเขามาจากหนังสือล้วนๆ และประสบการณ์การตั้งแคมป์ครั้งเดียวของเขาก็คือในห้องนั่งเล่นของตัวเอง รัสเซลภาคภูมิใจที่จะโชว์ตราลูกเสือนักสำรวจของเขา
ซึ่งรวมถึงตราในการปฐมพยาบาลขั้นต้น ปฐมพยาบาลขั้นสอง สัตว์วิทยาและการปลอมแปลงโฉม เขาขาดเพียงตราช่วยเหลือคนชราเท่านั้นที่จะทำให้ความฝันในชีวิตของเขา ในการเป็นลูกเสือนักสำรวจอาวุโส เป็นจริงได้ เมื่อเขาตั้งเป้าเอาไว้ว่าคาร์ล เฟร็ดดิคเซนจะเป็นชายชราที่เขาจะช่วยเหลือ รัสเซลกลับกลายเป็นคนที่ต้องติดอยู่บนระเบียงหน้าบ้านของคาร์ลไปโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อบ้านลอยขึ้นสู่อากาศ และพบว่าตัวเองได้ผจญภัยในป่าจริงๆ อย่างที่เขาใฝ่ฝันถึงมาโดยตลอด

ดั๊ก สุนัขโกลเด้นแสนน่ารัก
สุนัขพันธุ์โกลเด้นแสนน่ารักที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่า “พาราไดส์ ฟอลส์” ในฐานะส่วนหนึ่งของฝูงสุนัขที่ตามหานกที่บินไม่ได้ ดั๊กก็เหมือนกับสุนัขตัวอื่นๆ ในฝูง ที่มีปลอกคอไฮเทคที่สามารถแปลความคิดของเขาให้กลายเป็นคำพูด แต่ดั๊กก็ถูกล้อว่าเป็นเนิร์ดประจำฝูง เมื่อถูกส่งเข้าป่าไปเพื่อทำภารกิจ “พิเศษ” ดั๊กก็บังเอิญทำภารกิจลุล่วงเมื่อเขาค้นพบนกที่ติดตามคาร์ลและรัสเซลมา ขณะที่พวกเขาถูกตามไล่ล่าไปทั่วป่าจากฝูงของเขาเอง ดั๊ก ผู้เรียบง่ายแต่น่ารัก ก็ต้องตัดสินใจว่า เขาควรจะอยู่ฝูงไหนกันแน่

เควิน นกที่บินไม่ได้และมีความสูง 13 ฟุต
ที่ซ่อนเร้นจากทั่วทั้งโลกในป่าพาราไดส์ ฟอลส์ ด้วยขนนกสีสันสดใสและลำคอที่ยาว และคดงอได้ ทำให้เควินเป็นนกที่มีความว่องไวและพลิ้วไหวเป็นพิเศษ จริงๆ แล้ว นกยักษ์ตัวนี้มักจะไปตกอยู่ในสถานการณ์ที่แปลกประหลาดและดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้อยู่เสมอๆ มีน้อยคนนักที่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่มีคุณค่าอย่างยิ่งทางวิทยาศาสตร์ตัวนี้มีชีวิตอยู่ แต่คาร์ลและรัสเซลก็ไปเจอกับนกตัวนี้โดยบังเอิญ ซึ่งรัสเซลตั้งชื่อมันว่าเควินหลังจากเขาพบว่ามันก็ชอบของหวานเหมือนกับเขา ทั้งเควินและรัสเซลต่างกลายเป็นเพื่อนซี้กันในทันที และแม้ว่ามันมักจะเอาไม้เท้าของคาร์ลไปอมเล่นอยู่บ่อยๆ เควินก็ได้ร่วมผจญป่าไปกับกลุ่มที่ไม่น่าจะอยู่ร่วมกันได้ ที่ประกอบไปด้วยคาร์ล, รัสเซลและดั๊ก
หนัง 3 มิติเรื่องแรกที่เปิดตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์
จากผู้กำกับที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ พีท ด็อกเตอร์ จาก มอนส์เตอร์อิงค์ ให้เสียงโดย เอ๊ด เอสเนอร์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, และแน่นอน จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์ นักแสดงคนเดียวที่ได้พากย์เสียงในภาพยนตร์ทุกเรื่องของพิกซาร์ ซึ่งคราวนี้เขาจะรับบทเป็น คนงานก่อสร้างชื่อ ทอม เตรียมตัวผจญภัยบนท้องฟ้า ตะลุยป่าดงพงไพรไปกับฮีโร่วัยดึกและลูกเสือขี้สงสัย ในระบบดิสนีย์ดิจิตอล 3 มิติทะลุจอ
สร้างปรากฎการณ์กันอีกครั้งกับแอนิเมชั่น สตูดิโอระดับโลกอย่าง วอลท์ ดิสนีย์ พิกซาร์ที่เปิดตัวหนังใหม่ทีไรต้องขึ้นอัดับหนึ่งทุกครั้งไป ไม่เว้นแม้แต่แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุด UP ปู่ซ่าบ้าพลัง แอนิเมชั่นเรื่องที่ 10 ที่สร้างสถิติ เปิดตัวขึ้นอันดับ 1 สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกันให้กับ ดิสนีย์ พิกซาร์ และยังเป็น ภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องแรกที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ อีกด้วย รายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 68.2 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ ถือว่าเป็นรายได้เปิดตัวสูงสุดอันดับที่ 3 ของพิกซาร์รองจาก The Incredibles และ Finding Nemo
ฉากช่วงชีวิตของคาร์ลและเอลลี่ ดำเนินเรื่องด้วยเสียงเปียโนบรรเลงเพลงธีมตลอดฉากให้ความสนุกสนาน สุข เศร้า สิ่งที่ทำให้คนดูมีความรู้สึกร่วมกับฉากนี้มากๆ อาจจะเป็นเพราะนี่คือความจริงของชีวิต สัจธรรมของเส้นทางทุกคน มีความรัก มีความฝัน ผิดหวังและการจากลา ซึ่งทุกคนไม่อาจเลี่ยงได้ พร้อมกับตั้งคำถามสอนคนดูว่า ทุกคนต้องพานพบเจอการจากลากันทั้งนั้น อย่ารอให้ถึงวันที่สายเกินไปถึงจะทำตามความฝันเพราะเวลาไม่เคยรอใคร แม้หนังจะมีจุดเศร้าในตอนแรก แต่ในตอนท้ายสุดของเรื่อง UP ก็ตอบแทนคนดูด้วยความสุขในแบบฉบับของพิกซ่าร์
นักพากย์ตัวละคร
- เอ็ด แอสเนอร์ (คาร์ล เฟร็ดดริคเซน)
- จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์ (ทอม หัวหน้าคนงานก่อสร้าง)
- จอร์แดน นากาอิ (รัสเซล)
- อลิซาเบธ “เอลลีย์” ด็อคเตอร์ (เอลลีย์วัยเด็ก)
- เดลรอย ลินโด (เบต้า)

ข้อคิดของหนัง
ข้อคิดดีดีจากเรื่องนี้ เวลาที่เราต้องทิ้งของบางอย่าง แต่รู้สึกเสียดายจะนึกถึงเรื่อง Up ปู่ซ่าบ้าพลัง จากตอนที่คุณปู่โยนของในบ้านทิ้ง เพื่อให้บ้านลอยไปช่วยเด็กได้ แม้ว่าของทั้งหมดจะเต็มไปด้วยความทรงจำของเขากับภรรยา เป็นฉากที่สะเทือนใจมาก แต่มันทำให้เราคิดได้ว่า ถ้าเราลองมองข้ามความทรงจำนั้นไปมันก็แค่สิ่งของเท่านั้น
หนังรักในดวงใจขอมอบให้เรื่อง Up ปู่ซ่าบ้าพลัง เป็นการ์ตูนที่สื่อถึงความรักออกมาได้ดีมาก ดูแล้วอบอุ่นหัวใจตาม แต่ก็เศร้าไปพร้อมกัน Up ปู่ซ่าบ้าพลังรัก ตั้งแต่ต้นเรื่องฟีลกู้ดสุด เป็นการ์ตูนผจญภัยที่ใครยังไม่ดูควรไปหาดูเลยห้าม สนุกมากน่ารักดี ต้องลองไปดูกันนะ สุดท้ายนี้ถ้ารู้จักปล่อยวางกับสิ่งที่ไม่ควรยึดติดแล้ว จิตใจเราจะเป็นสุข ดูเรื่องนี้ให้ข้อคิดหลายเรื่องไม่แปลกที่ใคร ๆ ต่างก็ชอบเรื่องนี้กัน
เรื่องราวของรุ่นน้อง ที่มาบอกเล่าประสบการณ์ของพีาชายที่ได้ไปลองของกับเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้นติดตามได้ที่ อย่าลองของกับเด็กเสิร์ฟ เรื่องสยองขวัญอ่านแล้วรับรองว่าขนลุกอย่างแน่นอน
บทความที่น่าสนใจ : TENET